วิธีการเลือกซื้อที่นอนเพื่อลดอาการปวดหลัง

ปัจจุบันอาการปวดหลังมักเป็นอาการที่พบเห็นโดยทั่วไป และพบเห็นได้ในทุกวัย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งในด้านของพฤติกรรมตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล รวมไปถึงสภาพแวดล้อมรอบตัว อาการปวดหลังนั้นส่วนหนึ่งอาจเกิดได้จากการเลือกใช้ที่นอนที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง จึงส่งผลถึงสรีระของผู้ใช้งานขณะนอนหลับ เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นทำให้เกิดอาการปวดหลังได้นั่นเอง ดังนั้นแล้วการเลือกที่นอนนั้นเป็นสิ่งสำคัญและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรา

เลือกที่นอนอย่างไรให้มีความเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของอาการปวดหลัง

สำหรับการเลือกที่นอนนั้น เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเวลา 1 ใน 3 ของวัน ผู้คนใช้เวลาอยู่บนที่นอนเพื่อนอนหลับพักผ่อน ซึ่งถ้าที่นอนที่เราเลือกนั้นไม่เหมาะสมกับสรีระของร่างกาย อาจจะทำให้การพักผ่อนเปลี่ยนเป็นเหนื่อยล้าแทนได้ มาลองดูวิธีการเลือกที่นอนแบบให้ความเหมาะสมกับสรีระของตนเองและลดความเสี่ยงในการปวดหลัง ซึ่งมี 3 วิธีการง่ายๆ ดังนี้

1. เลือกจากการรับน้ำหนักของฟูกที่นอน
   สำหรับการเลือกฟูกที่นอนที่จะช่วยลดอาการปวดหลังได้นั้น ควรพิจารณาจากน้ำหนักตัวของผู้นอนเป็นหลัก เนื่องด้วยฟูกที่นอนที่เลือกนั้นจะต้องสามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้เป็นอย่างดี ช่วยพยุงร่างกายและสามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ป้องกันการยุบตัวของฟูกที่นอน
   
   
2. การเลือกจากขนาดของฟูกที่นอน
   สำหรับขนาดของฟูกที่นอนนั้น หลักๆ จะมีด้วยกัอยู่ 3 ขนาด ได้แก่ Sigle Bed, Queen Size และ King Size ซึ่งการพิจารณาเลือกขนาดของฟูกที่นอนนั้นต้องมีความเหมาะสมกับขนาดตัว จำนวนผู้นอนเป็นหลัก เพื่อรองรับกับสรีระของผู้นอนได้อย่างเต็มที่และมีพื้นที่เหลือพอสำหรับการพลิกตัวระหว่างการนอน และกรณีที่นอนรวมกันหลายคน ขนาดของที่นอนต้องกว้างพอไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป นอกจากนี้ควรเลือกที่นอนที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยของห้องนอนด้วย
   
   
3. การเลือกจากประเภทวัสดุของฟูกที่นอน
   วัสดุของฟูกที่นอนที่เราเลือกซื้อมานั้น ก็ส่งถึงอาการปวดหลังได้เช่นกัน โดยทุกวันนี้ฟูกที่นอนมีการพัฒนาออกมาไว้หลายรูปแบบ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานและการพักผ่อน โดยคุณสามารถเลือกซื้อฟูกที่นอนได้ตามแบบที่ต้องการ ซึ่งแต่ละแบบนั้นที่ทำจากอะไรบ้าง และมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ในบทความนี้จึงจะขอพูดถึงฟูกที่นอนทั้ง 3 แบบที่ได้รับความนิยม ดังนี้
   
   
   1. ฟูกที่นอนสปริง
      สำหรับฟูกที่นอนสปริงนั้นเป็นฟูกที่นอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งและมีการผลิตเพื่อจัดจำน่ายเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยฟูกที่นอนสปริงนั้นสามารถช่วยในเรื่องลดรอยกดทับ และฟูกที่นอนสปริงสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันนี้ฟูกที่นอนสปริงนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน โดยจะแตกต่างกันที่รูปแบบและประเภทของสปริง ดังนี้
      
      
      • ฟูกที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์ เป็นฟูกที่นอนสปริงในรูปแบบแรกที่ถูกคิดค้นขึ้นมา ซึ่งลักษณะของสปริงจะเป็นแบบเกลียวหมุน โดยข้อดีของฟูกที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์ คือ มีราคาที่ถูก และมีข้อเสียในเรื่องของการยึดตัว เมื่อมีการขยับจะทำให้เกิดเสียง
        
        
      • ฟูกที่นอนสปริงแบบสปริงออฟเซ็ท เป็นฟูกที่ได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการยึดตัว ฟูกที่นอนสปริงในแบบนี้มีข้อดี คือ มีความแน่นมากขึ้น ไม่มีการเสียดสี ข้อเสีย คือ สปริงที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้ไม่รองรับน้ำหนักของผู้นอนเฉพาะจุดได้ เมื่อผู้นอนมีการขยับตัว แรงกดนั้นจะถูกกระจายไปด้านข้าง จึงทำให้ผู้ที่นอนข้างๆ จะรู้สึกตัวด้วย
        
        
      • ฟูกที่นอนแบบพ็อกเก็ตสปริง เป็นที่นอนสปริงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกระดับ โดยฟูกที่นอนสปริงแบบพ็อกเก็ตสปริงนั้นจะมีสปริงตัวเล็กๆ ที่วางเรียงตัวกันอยู่บนผ้าสปันบอล ข้อดีคือ สามารถยืดหรือหดแยกออกจากกันได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นรองรับกับสรีระของร่างกาย เมื่อมีแรงกดทับสปริงแต่ละตัวจะทำงานแยกอิสระต่อกัน จึงไม่เกิดการกระจายน้ำหนักไปด้านข้าง กรณีที่มีการขยับตัวจะไม่ส่งผลต่อคนที่นอนข้างๆ รวมไปถึงกรณีที่สปริงเกิดการชำรุดเสียหาย สามารถเปลี่ยนสปริงได้ทีละตัว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหมด
        
        
   2. ฟูกที่นอนยางพารา
      ฟูกที่นอนยางพารานั้นเป็นที่นอนที่ถูกขึ้นรูปจากยางพารา โดยจะมีทั้งในส่วนของยางพารา 100% หรือยางพาราแท้ ส่วนอีกแบบคือ ฟูกที่นอนยางพาราอัด เป็นการนำเศษยางมาอัดรวมกันเป็นก้อน ซึ่งสำหรับที่นอนยางพารานั้น เป็นฟูกที่นอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยมีข้อดี คือ เป็นฟูกที่นอนที่สามารถระบายอากาศและความชื้นได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับได้ตามสรีระของร่างกาย มีความคงทน ไม่ยุบง่าย ช่วยลดอาการปวดหลัง นอกจากนี้การเลือกใช้ฟูกที่นอนยางรางแท้ยังส่งเสริมในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ฟูกที่นอนยางพารายังมีข้อเสีย คือ มีราคาที่สูงเนื่องด้วยมีกระบวนการในการผลิตที่ซับซ้อน ขณะใช้งานฟูกที่นอนยางพาราใหม่ๆ จะมีกลิ่นที่ค่อยข้างแรง นอกจากนี้ฟูกที่นอนยางพารายังมีน้ำหนักมาก ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย
      
      
   3. ฟูกที่นอนฟองน้ำอัด
      สำหรับอีกหนึ่งทางเลือกของการเลือกฟูกที่นอน คือ ฟูกที่นอนฟองน้ำอัด เป็นฟูกที่นอนที่ผ่านกระบวนการอัดแน่น โดยการนำฟองน้ำมาผสมกับสารเคมี ทำให้มีข้อดี คือ เนื้อสัมผัสของฟูกที่นอนมีความแน่นพอดีไม่นิ่มจนเกินไป ราคาไม่สูง และมีน้ำหนักที่เบา นอกจากนี้ฟูกที่นอนฟองน้ำอัดสามารถรองรับกับกระดูกสันหลัง ปรับได้ตามสรีระของร่างกาย ซึ่งจะช่วยในการป้องกันการปวดหลังในระยะยาวได้อีกด้วย ซึ่งข้อเสียของฟูกที่นอนฟองน้ำอัดนั้น คือ ความยืดหยุ่นและการคืนตัวนั้นไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับที่นอนสปริงหรือที่นอนยางพารา และในกรณีที่ที่นอนเปียกน้ำ จะเกิดการดูดซับน้ำได้ดีส่งผลให้ที่นอนมีความชื้นได้ง่าย เมื่อใช้ในระยะยาวอาจทำให้ที่นอนเกิดการยุบตัวเป็นแอ่งโค้งเว้าบนที่นอนได้

หากคุณต้องการเลือกสรรที่นอนที่ช่วยตอบโจทย์การใช้งานและลดอาการปวดหลัง ลองปรึกษากับ deeroom design โรงงานผลิตที่นอนและจัดจำหน่าย ซึ่งมีสินค้ามากมายให้คุณได้เลือกสรร ทั้งเตียงนอน โซฟาเบด ฐานเตียง ฟูกที่นอน เฟอร์นิเจอร์ชุดห้องนอน และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งมีบริการหลังการขาย ทีมขนส่งพร้อมช่างติดตั้งที่ชำนาญ ให้บริการที่ดี รับประกันสินค้ามีคุณภาพในราคามิตรภาพ เพื่อความประทับใจของคุณ

 สนใจติดต่อสอบถาม หรือปรึกษา deeroom design
โรงงานผลิตที่นอนและจัดจำหน่าย ได้ที่
ที่อยู่ : 84 หัวกระบือเเฟคตอรี่เฮ้าส์ ซอยเทียนทะเล 19 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล
แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. 10150

โทร : 02-416-8916
HOTLINE : 081-934-8817 , 081-499-8988
LINE ID: @deeroom
E-mail : deeroom88@gmail.com